วิธีพยากรณ์ยอดขาย (Sales Forecast) อย่างแม่นยำ สำหรับร้านอาหาร

onyxautomatonyxautomaticdoor55ประตูเลื่อนอัตโนมัติประตูเลื่อนอัตโนมัติประตูอัตโนมัติประตูออโต้ประตูเซเว่นonyxautomaticdoorประหยัดต้นทุนติดตั้งประตูเลื่อนอัตโนมัติบริการติดตั้งประตูเลื่อนอัตโนมัติicdoor55ประตูเลื่อนอัตโนมัติประตูเลื่อนอัตโนมัติประตูอัตโนมัติประตูออโต้ประตูเซเว่นonyxautomaticdoorประหยัดต้นทุนติดตั้งประตูเลื่อนอัตโนมัติบริการติดตั้งประตูเลื่อนอัตโนมัติ

วิธีพยากรณ์ยอดขาย (Sales Forecast) อย่างแม่นยำ สำหรับร้านอาหาร

การพยากรณ์ยอดขาย (Sales Forecast) สำหรับร้านอาหาร ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะช่วยให้เจ้าของร้านสามารถประมาณการยอดขายที่จะขายได้ในอนาคต และกำหนดแนวทางการทำธุรกิจได้อย่างถูกต้อง หากเราไม่รู้ที่มาที่ไปของยอดขาย และประเมินยอดขายในอนาคตไม่ได้ ก็อาจส่งผลให้เราไม่สามารถคิดวิธีเพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือบางครั้งก็อาจทำให้เราตัดสินใจออกโปรโมชั่นแบบผิดทาง ส่งผลให้ร้านเสี่ยงขาดทุนได้เลย ดังนั้น เราจึงต้องทำความเข้าใจ วิธีพยากรณ์ยอดขาย ตั้งแต่เริ่มต้นเปิดร้าน

วิธีพยากรณ์ยอดขาย ที่แม่นยำนั้น ไม่ยากอย่างที่คิด เพียงนำยอดขายในอดีตมาวิเคราะห์ร่วมกับข้อมูลคู่แข่ง รวมถึงสถานการณ์และแนวโน้มของเศรษฐกิจในปัจจุบัน

เมื่อไหร่ที่ต้องพยากรณ์ยอดขาย

  • เมื่อวางแผนเปิดร้านใหม่: การพยากรณ์ยอดขาย ถือเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนดำเนินธุรกิจในช่วงเริ่มต้นเปิดร้าน นอกจากจะช่วยให้ประเมินธุรกิจได้อย่างชัดเจนแล้ว ยังช่วยให้การขออนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงินง่ายขึ้นอีกด้วย
  • ในขณะที่กำลังเปิดร้านอยู่: การพยากรณ์ยอดขายสามารถทำได้ตลอดเวลา โดยสามารถพยากรณ์ได้ทั้งรายสัปดาห์ รายเดือน รายไตรมาส หรือรายปีก็ได้ การพยากรณ์ยอดขายจะช่วยให้เจ้าของร้านสามารถวางแผนบริหารจัดการร้านได้อย่างถูกต้อง เช่น วางแผนปรับเมนู ปรับราคาอาหาร ทำโปรโมชั่น เพิ่มจำนวนพนักงาน หรือวางแผนขยายสาขาในอนาคต

วิธีพยากรณ์ยอดขาย (Sales Forecast) อย่างแม่นยำ

การพยากรณ์ยอดขายนั้นนิยมพยากรณ์กันเป็นรายเดือน โดยมีวิธีการ ดังนี้

Step 1. คาดการณ์จำนวนลูกค้า:

เริ่มแรก เจ้าของร้านควรนำข้อมูลยอดขายในอดีตมาวิเคราะห์ หากเป็นร้านที่คุณเซ้งต่อมา ก็ให้นำบันทึกยอดขายมาพิจารณาดูว่า ในแต่ละเดือนมีลูกค้ามากน้อยแค่ไหน

หากเป็นร้านใหม่ที่คุณเริ่มต้นเปิดกิจการด้วยตัวเอง ก็อาจใช้วิธีเฝ้าสังเกตร้านคู่แข่งในบริเวณใกล้เคียงกัน แล้วลองนับดูว่า ตั้งแต่เปิดร้านจนถึงปิดร้าน มีลูกค้าเข้ามาในร้านประมาณกี่คน

หากร้านของคุณมีเมนูหลากหลายและมีราคาแตกต่างกันไป อาจใช้วิธีคาดการณ์ลูกค้า โดยดูว่า ทั้งร้านมีกี่ที่นั่ง และมีจำนวนรอบ (turn) ในการใช้บริการอยู่ที่เท่าไหร่

Step 2. อย่าลืมนับลูกค้าที่ไม่ได้นั่งในร้าน:

นอกจากลูกค้าที่นั่งรับประทานอาหารในร้านแล้ว อย่าลืมนับลูกค้าที่สั่งกลับบ้าน หรือสั่งทาง Delivery ด้วย

Step 3. พิจารณาปัจจัยเหล่านี้ประกอบด้วย:

มีปัจจัยภายนอกมากมาย ที่ส่งผลทำให้จำนวนลูกค้าเข้าร้านแตกต่างกันไปในแต่ละวัน เจ้าของร้านต้องอย่าลืมนำปัจจัยเหล่านี้มาพิจารณาด้วย

  • หากเป็นย่านออฟฟิศ จำนวนลูกค้าในวันธรรมดาช่วงกลางวัน มักจะมากกว่าวันธรรมดาช่วงเย็น และวันหยุดเสาร์อาทิตย์ รวมถึงวันหยุดเทศกาล
  • ในช่วงวันหยุดเทศกาล ร้านอาหารในกรุงเทพฯ มักจะมีลูกค้าเข้าน้อยกว่าช่วงปกติ ส่วนร้านอาหารในแหล่งท่องเที่ยว มักจะมีลูกค้าเข้ามากกว่าช่วงปกติ
  • ในช่วงวันเสาร์อาทิตย์ ร้านอาหารตามแหล่งท่องเที่ยว หรือในห้างฯ สรรพสินค้า มักจะมีลูกค้าเข้ามากกว่าปกติ
  • ช่วงเริ่มต้นเปิดร้านใหม่ เดือนแรกๆ มักจะมีลูกค้าน้อยกว่าปกติ เพราะร้านยังไม่เป็นที่รู้จักของลูกค้า
  • ช่วงหน้าฝน ลูกค้าอาจเข้าร้านน้อยกว่าปกติ

Step 4. หาราคาเฉลี่ยต่อหัว:

ขั้นตอนต่อมาคือการหาราคาเฉลี่ยต่อหัว หรือค่าใช้จ่ายเฉลี่ยที่ลูกค้าจ่ายค่าอาหารต่อหนึ่งคน โดยเจ้าของร้านต้องไม่ลืมนำปัจจัยเหล่านี้มาพิจารณาร่วมด้วย

  • ช่วงเศรษฐกิจไม่ดี ลูกค้ามักจะมีกำลังซื้อน้อย ทำให้ราคาเฉลี่ยต่อหัวต่ำ
  • ช่วงต้นเดือน หรือช่วงที่เงินเดือนออก ลูกค้ามักจะมีกำลังซื้อมากกว่าช่วงปลายเดือน ดังนั้น ค่าเฉลี่ยต่อหัวมักจะสูงกว่า
  • ช่วงปลายปี ที่เป็นเทศกาลเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าเข้าปีใหม่ และช่วงที่โบนัสออก ลูกค้ามักจะมีกำลังซื้อสูงกว่าปกติ

Step 5. คำนวณหายอดขาย:

เมื่อคาดการณ์จำนวนลูกค้า และหาราคาเฉลี่ยต่อหัวได้แล้ว ก็ถึงเวลาคำนวณหายอดขายของร้านอาหาร โดยใช้สูตรคำนวณดังนี้

คาดการณ์จำนวนลูกค้า x ราคาเฉลี่ยต่อหัว = รายได้รวมของร้าน

ตัวอย่างเช่น เดือนธันวาคมร้านของเราน่าจะมีลูกค้าเข้าร้านทั้งหมด 4,000 คน x ราคาเฉลี่ยต่อหัวลูกค้าอยู่ที่ 150 บาท เท่ากับว่า ยอดขายรวมของร้านในเดือนธันวาคมโดยประมาณแล้ว อยู่ที่ 600,000 บาท

เมื่อได้ยอดขายโดยประมาณแล้ว ก็ให้นำมาวิเคราะห์หาจุดคุ้มทุน (Break-even) หรือกำไรต่อไป

รู้ยอดขายแล้ว ทำอะไรต่อ

เมื่อรู้ยอดขายแล้ว เราจะสามารถคำนวณต่อได้ว่า กำไรที่จะได้รับเป็นเท่าไหร่ เมื่อนั้นเราจะสามารถวางแผนธุรกิจต่อไปได้ เช่น ถ้าเห็นว่ายอดขายน้อยเกินไป อยากเพิ่มยอดขายให้ได้มากขึ้น ก็อาจวางแผนธุรกิจ ดังนี้

  • วางแผนเพิ่มจำนวนลูกค้าเช่น โปรโมตร้านในช่องทางโซเชียล ขอให้ลูกค้าช่วยรีวิวร้าน เพิ่มบริการส่งฟรีในรัศมีใกล้ๆ ร้าน เพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่ไม่สะดวกเดินทาง หรือลูกค้าตามหมู่บ้าน
  • วางแผนเพิ่มค่าเฉลี่ยต่อหัวเช่น ปรับราคาอาหารเพื่อเพิ่มยอดขาย เชียร์ขายเมนูอื่นๆ ที่กินคู่กับเมนูที่ลูกค้าสั่ง ขายอาหารเป็นจัดแบบ ออกเมนูของหวานหรือของกินเล่นเพิ่มเติม อัปไซส์ในราคาพิเศษ

จะเห็นได้ว่า การพยากรณ์ยอดขาย มีประโยชน์ต่อร้านอาหารเป็นอย่างยิ่ง หากคุณยังไม่ได้เริ่มพยากรณ์ยอดขาย มารีบลงมือทำตั้งแต่วันนี้ เพื่อที่จะได้วางแผนธุรกิจได้อย่างถูกต้อง

ที่มา : torpenguin https://torpenguin.com/%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%9e%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%93%e0%b9%8c%e0%b8%a2%e0%b8%ad%e0%b8%94%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%a2/

.

ติดตั้งประตูเลื่อนอัตโนมัติ

สำหรับ ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ออฟฟิศสำนักงาน บ้านพักอาศัย

บริการครอบคลุมทั่ว 77 จังหวัด

ปรึกษาปัญหาหรือคำแนะนำไม่มีค่าใช้จ่าย

– บริการติดตั้งประตูใหม่ และ ประตูเก่า

– บริการซ่อมแซม บำรุงรักษา ตรวจเช็คการทำงานของประตู

– บริการออกแบบเพื่อให้สวยงาม เหมาะสมกับการใช้งานและสถานที่

 

ลูกค้าสามารถแจ้งวันเวลาเพื่อให้พนักงานบริการเข้าให้คำปรึกษาแนะนำได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

เรายินดีให้บริการ

ONYX Automatic Door

 

สอบถามรายละเอียด

ฝ่ายบริการลูกค้าสัมพันธ์

☎️ 062-395-5561

หรือ Inbox ผ่าน Facebook Page ของบริษัท

 

visit our website

www.ประตูเลื่อนอัตโนมัติ.com

 

#onyxautomaticdoor #ประตูเลื่อนอัตโนมัติ  #ประตูบานเลื่อนอัตโนมัติ #automaticslidingdoor

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll to Top