HKTDC จัดแสดงสินค้า Think Business, Think Hong Kong 13-14 ก.ค.นี้
องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) จัดงานแสดงสินค้า Think Business, Think Hong Kong ขนทัพสินค้าและบริการคุณภาพเยี่ยมจากฮ่องกงสู่ประเทศไทย ในงานแสดงสินค้าสุดยิ่งใหญ่แห่งปี วันที่ 13 – 14 ก.ค.นี้ ณ เซ็นทารา แกรนด์ และ บางกอก คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิล์ด
คุณ โรนัลด์ โฮ ผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (Hong Kong Trade Development Council: HKTDC) เปิดเผยว่า ปัจจุบันฮ่องกงเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์กลางการค้าชั้นนำของตลาดภูมิภาคอาเซียน มีจุดแข็งในเรื่องของนวัตกรรมสินค้า และธุรกิจทางการเงิน การลงทุนระดับนานาชาติ ทาง HKTDC ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ส่งเสริม ช่วยเหลือ และขยายโอกาสทางธุรกิจของฮ่องกง จึงต้องการเข้ามาสนับสนุนกลุ่มธุรกิจในฮ่องกง ดังกล่าว ผ่านการเข้ามาจัดงานแสดงสินค้าที่มีชื่อว่า Think Business, Think Hong Kong (TBTHK) ในประเทศไทย เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจด้วยกัน ระหว่างนักธุรกิจฮ่องกงและนักธุรกิจไทย
เนื่องจากประเทศไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตค่อนข้างสูงมาก มีประวัติศาสตร์แห่งความสัมพันธ์ทางธุรกิจอันแน่นแฟ้นมาอย่างยาวนานกับฮ่องกง ขณะที่ฮ่องกงมีความโดดเด่นเรื่องนวัตกรรมสินค้า ธุรกิจด้านการเงิน การลงทุน จึงนับเป็นโอกาสที่ดีในการใช้แพลตฟอร์มจากการจัดแสดงสินค้าในงาน Think Business, Think Hong Kong มาค้นหาคู่ค้าในการลงทุน ต่อการสร้างโอกาสทางธุรกิจที่สามารถใช้ฮ่องกงเป็นสะพานเชื่อมไปสู่การลงทุนในประเทศจีนร่วมกันอย่างประสบความสำเร็จในอนาคตได้
สำหรับรายละเอียดของการจัดงาน Think Business, Think Hong Kong คุณ เชอร์ลี่ย์ อึ้ง ผู้อำนวยการประจำประเทศไทยและเอเชียใต้ องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (Hong Kong Trade Development Council: HKTDC) กล่าวว่า ภายในงานจะมีการจัดหมวดผลิตภัณฑ์เข้าร่วมทั้งหมด 4 กลุ่ม ได้แก่ 1. Fashion & Lifestyle 2. Healthy & Welness 3. Home & Living 4. Toy & Gadget รวมแล้วมีมากกว่า 100 บริษัท โดยแต่ละบริษัทขึ้นชื่อว่าเป็นแบรนด์ชั้นนำของฮ่องกงที่จะมาร่วมจัดแสดงสินค้าคุณภาพสูง อาทิ ผลิตภัณฑ์กระเป๋าผ้า Kapture เป็นการผลิตจากผ้า upcycled ที่มีการผสานเทคโนโลยีแอนตี้ไวรัส BioNTex กระบอกน้ำสุญญากาศ Camel เป็นเทคโนโลยีสุญญากาศที่มีความโดดเด่นมาตั้งแต่ปี 1940 นาฬิกา Temporis มีดีไซน์ทันสมัย ประดับด้วยคริสตัล K1 แทนกระจกเทมเปอร์ เป็นการยกระดับสินค้าเมื่อเทียบกับนาฬิกาข้อมือยี่ห้ออื่น ๆ ในกลุ่มราคาเดียวกัน จึงเหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ B.Duck แบรนด์สินค้าออกแบบลิขสิทธิ์ชื่อดังจากบริษัท Semk Products Ltd. ด้วยการนำเสนอโคมไฟรูปเป็ดอันโด่งดัง
นับว่าการจัดแสดงสินค้าครั้งนี้จะทำให้คนไทยรู้จักสินค้าจากฮ่องกงมากขึ้นในเรื่องของนวัตกรรม ไอเดียความคิดสร้างสรรค์ของการคิดค้นสินค้าที่มีคุณภาพการใช้งานระดับสูง มีการผสมผสานในเรื่องของการ Mix&Match ระหว่างแนวความคิดเชิงวัฒนธรรมของฮ่องกง และประเทศอื่น ๆ เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว ตัวอย่าง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไวต้า กรีน แบรนด์ชั้นนำในฮ่องกง ที่มีการนำวัตถุดิบสมุนไพรจีนอย่าง ถั่งเช่า เห็ดหลินจือ มาผสมผสานการผลิตเข้ากับเทคโนโลยีในระดับโรงงานมาตรฐานโลก เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีคุณภาพที่สูงด้วยราคาที่ทุกคนสามารถจับต้องได้
เพราะเป้าหมายของการจัดงานแสดงสินค้าครั้งนี้นอกจากมาโชว์นวัตกรรมสินค้าฮ่องกงให้คนไทยรู้จักเพื่อนำไปสู่การต่อยอดในการหาคู่ค้าทางธุรกิจเพื่อการลงทุนไปยังประเทศจีนในอนาคตด้วยกัน ยังเป็นการช่วยกลุ่มธุรกิจในฮ่องกงให้สามารถเข้ามาขยายตลาดในประเทศไทยได้มากขึ้นด้วย เนื่องจากคนไทยมีพฤติกรรมเปิดรับผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ พร้อมที่จะทดลองใช้อยู่เสมอ ดังนั้นผู้ประกอบการฮ่องกง จำเป็นต้องใช้แพลตฟอร์มจากการจัดแสดงสินค้าภายในงานนี้มาค้นหาและทดสอบด้วยตนเองว่า ผู้บริโภคคนไทยมีความรับรู้ต่อแบรนด์สินค้าจากฮ่องกงอย่างไรเพื่อนำไปสู่การทำกลยุทธ์ตลาดสร้างแบรนด์สินค้าของตนเองต่อไป
นอกจากนี้ภายในงาน Think Business, Think Hong Kong ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-14 กรกฎาคม ณ เซ็นทารา แกรนด์ และบางกอก คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิล์ด จะมีการจัดเสวนา (Trade Talks) เพื่อเป็นการตอกย้ำความได้เปรียบในฐานะฮ่องกงเป็นศูนย์กลางการค้าชั้นนำของตลาดภูมิภาคอาเซียน อาทิ หัวข้อเสวนา (Trade Talks) เกี่ยวกับ การรังสรรค์อนาคตของการค้าปลีก การเพิ่มโอกาสทางธุรกิจด้วยลิขสิทธิ์ การเปลี่ยนโฉม E- Commerce และการโอบรับความยั่งยืน ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม การกำกับดูแล หรือ ESG โดยตลอด 2 วันของการจัดงานแสดงสินค้าดังกล่าว คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชมงานทั้งหมด จำนวน 1,000 – 1,500 คน
ด้าน คุณ ไอวี่ เชาว์ สุนทรสีมะ ประธานกรรมการ บริษัทไวต้า กรีน กรุ๊ป ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพและอุปกรณ์ทางการแพทย์ในเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา ภายใต้แบรนด์ ไวต้า กรีน (VITA GREEN) อันดับ 1 ของประเทศฮ่องกง กล่าวว่า เนื่องจากบริษัทมีแผนนำผลิตภัณฑ์แบรนด์ ไวต้า กรีน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดูแลรักษาสุขภาพ มีส่วนผสมจากถั่งเช่า เห็ดหลินจือ เข้ามาจำหน่ายยังประเทศไทย ด้วยรูปแบบ B2B คือการขายผ่านตัวแทนจำหน่าย ดังนั้นงานจัดแสดงสินค้า Think Business, Think Hong Kong จึงเป็นแพลตฟอร์มที่จะช่วยทำให้บริษัทสามารถหาคู่ค้าคนไทยที่จะร่วมสนับสนุน ส่งเสริม การทำธุรกิจให้สามารถเติบโตไปด้วยกันได้ เนื่องจากประเทศไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงมากในเรื่องของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยต่อปีมีอัตราการเติบโตถึง 8-10 % มีมูลค่าตลาดรวมมากกว่า 87,000 ล้านบาท
นอกจากนี้พฤติกรรมการดูแลสุขภาพของคนไทยมักนิยมเลือกทานผลิตภัณฑ์ที่เป็นสมุนไพรมากกว่า ขณะที่ผลิตภัณฑ์ แบรนด์ ไวต้า กรีน มีความได้เปรียบในเรื่องของการเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรแล้วยังมีนวัตกรรมการผลิตในคุณภาพระดับสูง ในราคาขายที่สามารถจับผู้บริโภคได้ในทุกตลาด ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ จะเป็นอย่างไรต้องติดตามตอนต่อไป เพราะขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการรออนุมัติขั้นตอนสุดท้ายขอการจดทะเบียนผลิตภัณฑ์ ไวต้า กรีน กับทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. อยู่
ที่มา : sanook
ติดตั้งประตูเลื่อนอัตโนมัติ
สำหรับ ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ออฟฟิศสำนักงาน บ้านพักอาศัย
บริการครอบคลุมทั่ว 77 จังหวัด
ปรึกษาปัญหาหรือคำแนะนำไม่มีค่าใช้จ่าย
– บริการติดตั้งประตูใหม่ และ ประตูเก่า
– บริการซ่อมแซม บำรุงรักษา ตรวจเช็คการทำงานของประตู
– บริการออกแบบเพื่อให้สวยงาม เหมาะสมกับการใช้งานและสถานที่
ลูกค้าสามารถแจ้งวันเวลาเพื่อให้พนักงานบริการเข้าให้คำปรึกษาแนะนำได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
เรายินดีให้บริการ
สอบถามรายละเอียด
ฝ่ายบริการลูกค้าสัมพันธ์
☎️ 062-395-5561
หรือ Inbox ผ่าน Facebook Page ของบริษัท
visit our website
www.ประตูเลื่อนอัตโนมัติ.com
#onyxautomaticdoor #ประตูเลื่อนอัตโนมัติ #ประตูบานเลื่อนอัตโนมัติ #automaticslidingdoor